พระราชบัญญัติงาช้าง พ.ศ. ๒๕๕๘
เพื่อให้เป็นไปตามกฏหมายดังกล่าว สมาชิกทุกท่านต้องอ่านทำความเข้าใจและปฏิบัติตามอย่างเคร่งคัด
รูปหล่อปั๊มรุ่น...
รูปหล่อปั๊มรุ่นแรก ลป.อ่ำ ธมฺมกาโม วัดสันติวรญาณ
หลวงปู่อ่ำ ธมฺมกาโม' หรือ 'พระครูสันติวรญาณ' เป็นพระมหาเถระผู้ใหญ่ที่พุทธศาสนิกชนทั่วไปกราบไหว้ยกย่องนับถือใน วัตรปฏิบัติและปฏิปทา รวมทั้งการเทศนาสอนธรรมกัมมัฏฐาน ด้วยคำเทศนาหรือบทธรรมของท่าน ส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องหลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ภัยในชีวิตประจำวัน
หลวงปู่อ่ำ เป็นพระสายวัดป่าที่เน้นเรื่องการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานเป็นด้านหลัก และเป็นศิษย์รุ่นกลางของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
การบรรพชา
ท่านบรรพชาเป็นสามเณร ในปี พ.ศ. ๒๔๘๖ เป็นสามเณรมหานิกาย ๓ พรรษา และธรรมยุตอีก ๓ พรรษา อุปสมบทครั้งแรก ท่านอุปสมบทครั้งแรก ที่วัดโพธิสมภรณ์ ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยมีพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ อุปสมบทครั้งที่สอง (ประวัติตามหนังสือบูรพาจารย์) ท่านอุปสมบทครั้งแรก ที่วัดป่าแสนสำราญ จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีหลวงพ่อพุธ ฐานิโย เป็นพระอุปัชฌาย์ กระทั่งอายุ ๒๖ ปี ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๗ ณ พัทธสีมาวัดประชาพิทักษ์ ต. ธาตุ อ. วารินชำราบ จ. อุบลราชธานี โดยมีพระครูพุทธสารสุนทร วัดประชาพิทักษ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระมหาปัญญา กุสโล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับนามฉายา 'ธมฺมกาโม' มีความหมายว่า 'ผู้ปรารถนาในพระธรรม'
หลังอุปสมบท ท่านได้อยู่ปฏิบัติรับใช้พระอุปัชฌาย์ระยะเวลาหนึ่ง ต่อมา ได้กราบลาขอเดินทางไปยัง จ.สกลนคร เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม จนสามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท และเอก ตามลำดับ จากสำนักเรียนวัดคามวาสี อ. สว่างดินแดน จ. สกลนคร ถวายตัวเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นต่อมา ท่านได้ไปขอฝากตัวเป็นอันเตวาสิก (ภิกษุผู้ขออยู่ร่วมสำนัก) ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เพื่อศึกษาด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน นั่งสมาธิ เจริญจิตตภาวนา หลวงปู่อ่ำ ได้มีโอกาสเข้าไปศึกษาปฏิบัติธรรมกับท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตตเถร ที่วัดป่าหนองผือ ถึง 3 ครั้งด้วยกัน ชึ่งแต่ละครั้งต้องเข้าไปในหน้าแล้ง เพราะยุคนั้นบ้านหนองผือมีไข้มาลาเลียชุกชุมมาก โดยครั้งแรกหลวงปู่เป็นสามเณร ได้ติดตามท่านพระอาจารย์คำ สุมังคโล ครั้งที่ 2 ยังเป็นสามเณรอยู่ ได้ไปกับครูบาเขื่อง การเข้าไปกราบนมัสการท่านพระอาจารย์มั่นทั้ง 2 ครั้งนั้นท่านได้สั่งให้ไปพักอยู่วัดบ้านนาใน กับหลวงพ่อสม ครั้งที่ 3 หลวงปู่อ่ำได้เข้าไปวัดป่าบ้านหนองผือองค์เดียว เพราะได้รับคำแนะนำจากพระอาจารย์บุญเพ็ง เขมาภิรโต (วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู) (ในขณะนั้นหลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต ยังเป็นสามเณรอยุ่และเป็นเพื่อนกับหลวงปู่อ่ำ ) สามเณรบุญเพ็ง ท่านบอกหลวงปู่อ่ำว่า 'ถ้าอยากอยู่หนองผือด้วยกัน ให้มาองค์เดียว อย่ามาเป็นหมู่ ตอนผมมาก็เดินทางมาพร้อมพระอาจารย์สอ แต่เวลาเข้ามาวัดป่าบ้านหนองผือ เข้ามาทีละรูป'
ครั้งหลวงปู่อ่ำเข้ามาวัดป่าบ้านหนองผือครั้งที่ 3 นี้ ท่านได้บวชเป็นพระภิกษุ ไม่ค่อยกลัวเพราะเคยเข้ามาก่อนแล้ว หลวงปู่อ่ำมาถูกจังหวะ พบท่านพระอาจารย์มั่น กำลังกวาดตาดอยู่ ท่านใจดีมากท่านพูดกับหลวงปู่ว่า 'ถ้าจะอยู่ด้วยกัน ให้ไปขอนิสัยเด้อ' หลวงปู่น้อมรับคำของท่านพระอาจารย์มั่น ด้วยความซาบซึ้งและเคารพเป็นอย่างสูงในเมตตาจิตของครูบาอาจารย์ ในตอนเย็นวันนั้นเองหลวงปู่อ่ำท่าจึงได้เข้าไปกราบขอนิสัยจากท่านพระอาจารย์ มั่นที่กุฏิ
หลังจากท่านได้ขอนิสัยจากท่านพระอาจารย์มั่นแล้ว หลวงปู่ได้อยู๋พักที่วัดป่าบ้านหนองผือ มีหน้าที่ถวายงานรับใช้ท่าน โดยการสรงน้ำหลวงปู่มั่น ในเวลาตอนเย็น หลวงปู่ได้เล่าว่า 'อาตมาสรงน้ำท่านทุกวัน ตอนนั้นบวชเป็นพระยังไม่ได้ถึงพรรษา ตอนเป็นเณร อาตมาเคยรับใช้ครูบาอาจารย์มาก่อน เคยได้ไปอยู่กับท่านพระอาจารย์พรหม จิรปุญโญ (ปัจจุบันท่านมรณภาพแล้ว ณ วัดประสิทธิธรรม บ้านดงเย็น อ. บ้านดุง จ. อุดรธานี) ท่านสอนอาตมาว่า 'ใครอยากเป็นเจ้าเป็นนายร่ำรวยต่อไปให้รับใช้ครูบาอาจารย์เด้อ' ตอนที่สรงน้ำท่าน มีอาจารย์วัน อาจารย์ทองคำ เป็นต้น คือเป็นอุบายของท่านที่จะได้ฝึกหัดให้พระเล็กๆ พรรษาน้อย ได้เรียนรู้ข้อวัตรปฏิบัติและมีโอกาสใกล้ชิดท่าน นอกจากการสรงน้ำถวายท่านแล้ว อาตมามีหน้าที่ต้มยาร้อนให้ให้พระเณรในวัดฉัน มีสมอ ใบอีเลิศ (ใบช้าพลู) ใบผักหนอก (ใบบัวบก) ใบกานพลู กระเทียม อาจารย์บุญเพ็ง เป็นผู้คุมทางน้ำร้อน ต้มน้ำร้อนถวายท่านพระอาจารย์มั่น เพราะอยู่กับท่านนานถึง 4 ปี หลวงปู่อ่ำท่านเล่าให้ฟังว่า 'เวลาท่านพระอาจารย์มั่นดุนั้น น่ากลัวอยู่น่ะ' ท่านดุหลวงพ่อสมที่ไปกราบเรียนถามน่ะ เหตุที่ท่านดุนั้นเป็นแบบนี้ วัดบ้านนาในแต่ก่อนยังเป็นวัดมหานิกายและเป็นวัดร้าง พระธรรมยุตไปพักอยู่ ทีนี้ต้นหมากมี้ (ต้นขนุน) มันไม่เป็นลูก แต่เราไปอยู่ไปอาศัยเวลาเช้าเทกระโถนปัสสาวะมันชุ่ม ลูกโตดก แล้วญาครูญาณพระมหานิกาย มาเอาลูกหมากมี้ไป หลวงพ่อสมท่านเสียดาย เลยดุว่า 'คนหนี่งเฝ้ารักษา ก็ไม่ได้กิน' พอท่านพระอาจารย์มั่นทราบท่านสอนว่า 'ไม่ให้ดุเขา ให้เขาเอาไปซ่ะ' ท่านดุหลวงพ่อสม ไม่ให้ว่าเขา ภิกษุโจทย์ภิกษุ เรื่องปาราชิก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส' ท่านดุหลวงพ่อสมจนหลวงพ่อสมกลัวตัวสั่น และลัวเป็นอาบัติ จึงไปกราบเรียนขอขมาและกราบเรียนถามท่านดู ท่านบอกว่า 'ท่านกำราบหลวงพ่อสมเฉยๆ' อีกเรื่องหนึ่ง ตอนนั้นอาตมายังเป็นเณรอยู่ ได้ไปพักที่วัดบ้านาใน หลวงพ่อนิน กับหลวงพ่อสม เถียงกันเรื่องเหาะ 'มันไปได้ทั้งกายทั้งจิตหรือ?' 'คงไปได้แต่จิต แต่กายจะไปได้หรือ?' หลวงพ่อสมไปกราบเรียนถามท่านพระอาจารย์มั่นว่า 'การเหาะอิทธิฤทธิ์ไปได้ทั้งกายทั้งจิตไหมขอรับ' ท่านตอบว่า 'ไปได้' ท่านวิสัชนาต่อว่า 'พระพุทธเจ้าขึ้นสู่ดาวดึงส์ ท่านให้คนเห็นทั้งเมืองสาวัตถี ทั้งวันเขาไม่กราบหรอก พระพุทธองค์ท่านทำให้เห็น เขาจึงกราบ ไปเทศน์โปรดพุทธมารดา' ท่านพระอาจารย์มั่นอบรมพระภิกษุสามเณร เป็นประจำ ทุกเย็นเวลาสองทุ่มเป็นต้นไป พระเณรขึ้นไปรับฟังธรรมจากท่านพระอาจารย์มั่นบนกุฏิท่าน หากมีจำนวนมากก็นั่งอยู่ข้างล่าง ประมาณ ปี พ.ศ. ๒๔๙๒ เดือนสามเพ็ญขึ้นไป ท่านได้ไม้อบรมจนท่านมรณภาพ ปกติท่านเทศน์เฉพาะพระ สอนแต่พระ 15 วันอบรมครั้ง วันสำคัญเช่น วันมาฆบูชา ทั้งพระทั้งเณรมารวมกันเต็มศาลา เย็น ๆ ปูเสื่อฟังเทศน์ ท่านเทศน์นานสี่ชั่วโมง แต่เทปสมัยนั้นยังไม่มี วิทยาศาสตร์ยังไม่เกิดในบ้านหนองผือ ท่านไม่อบรมญาติโยม ชาวบ้านหนองผือไม่ค่อยมา เขาไปวัดบ้านมหานิกาย ท่านไม่ให้มาใกล้หรอกพวกญาติโยม ส่วนพวกจำศีลไม่ได้เข้ามาพักที่วัด ท่านให้ไปบ้านไปปฏิบัติที่บ้านไม่ต้องเข้ามาจำศีลที่วัดป่าบ้านหนองผือ หลวงปู่อ่ำท่านได้เข้าไปพักที่วัดป่าบ้านหนองผือประมาณ 3 เดือนกว่า คือตั้งแต่เดือน12 จนถึงเดือนสามเพ็ญ พ.ศ. ๒๔๙๒ หลวงปู่จำเป็นต้องออกไปจากวัดป่าบ้านหนองผือ เพราะมีจดหมายมาตามให้ไปคัดเลือกทหารที่บ้านเดิมอุบลราชธานี โดยมากหากพระองค์ใดต้องไปเกณฑ์ทหารแล้ว ท่านพระอาจารย์มั่นท่านต้องให้ไปทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมืองก่อนตรงนี้เสมอ พร้อมกับได้ออกเดินธุดงควัตรไปตามสถานที่ต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
หลังจากนั้นหลวงปู่ได้มีโอกาสศึกษาธรรมกับหลวงปู่พรหม จิรปุญโญ ที่วัดประสิทธิธรรม บ้านดงเย็น ตำบลดงเย็น อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี รวม 4 ปี และหลวงปู่อ่ำได้ไปศึกษาธรรมและศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานกับองค์หลวงปู่ขาว อนาลโย แห่งวัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู 6 ปี และได้ไปกราบหลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ. สกลนคร, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม จ. อุดรธานี
ผู้เข้าชม
1538 ครั้ง
ราคา
1000
สถานะ
มาใหม่
โดย
ชื่อร้าน
sorasak99wat สรศักดิ์ พระเครื่อง
ร้านค้า
โทรศัพท์
ไอดีไลน์
0846850240
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา / 070-1-13702-4

ผู้เข้าใช้งานล่าสุด
YayoitermboonMuthitaโกหมูtangmoทิน ธรรมยุต
หริด์ เก้าแสนK1Chaiyaphumเสือรากไทรปลั๊ก ปทุมธานีnaputfuchoo18
อ้วนโนนสูงเปียโนmon37จิ๊บพุทธะมงคลยิ้มสยาม573hra7215
vanglannaAchiClassicpraLe29AmuletsomemanBeerchang พระเครื่อง
ยุ้ย พลานุภาพเพชร สารคามZomlazzaliนรินทร์ ทัพไทยบ้านพระสมเด็จบ้านพระหลักร้อย

ผู้เข้าชมขณะนี้ 1344 คน

เพิ่มข้อมูล

รูปหล่อปั๊มรุ่นแรก ลป.อ่ำ ธมฺมกาโม วัดสันติวรญาณ




  ส่งข้อความ



ชื่อพระเครื่อง
รูปหล่อปั๊มรุ่นแรก ลป.อ่ำ ธมฺมกาโม วัดสันติวรญาณ
รายละเอียด
หลวงปู่อ่ำ ธมฺมกาโม' หรือ 'พระครูสันติวรญาณ' เป็นพระมหาเถระผู้ใหญ่ที่พุทธศาสนิกชนทั่วไปกราบไหว้ยกย่องนับถือใน วัตรปฏิบัติและปฏิปทา รวมทั้งการเทศนาสอนธรรมกัมมัฏฐาน ด้วยคำเทศนาหรือบทธรรมของท่าน ส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องหลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ภัยในชีวิตประจำวัน
หลวงปู่อ่ำ เป็นพระสายวัดป่าที่เน้นเรื่องการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานเป็นด้านหลัก และเป็นศิษย์รุ่นกลางของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
การบรรพชา
ท่านบรรพชาเป็นสามเณร ในปี พ.ศ. ๒๔๘๖ เป็นสามเณรมหานิกาย ๓ พรรษา และธรรมยุตอีก ๓ พรรษา อุปสมบทครั้งแรก ท่านอุปสมบทครั้งแรก ที่วัดโพธิสมภรณ์ ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี โดยมีพระธรรมเจดีย์ (จูม พันธุโล) เป็นพระอุปัชฌาย์ อุปสมบทครั้งที่สอง (ประวัติตามหนังสือบูรพาจารย์) ท่านอุปสมบทครั้งแรก ที่วัดป่าแสนสำราญ จังหวัดอุบลราชธานี โดยมีหลวงพ่อพุธ ฐานิโย เป็นพระอุปัชฌาย์ กระทั่งอายุ ๒๖ ปี ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ เมื่อวันที่ ๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๗ ณ พัทธสีมาวัดประชาพิทักษ์ ต. ธาตุ อ. วารินชำราบ จ. อุบลราชธานี โดยมีพระครูพุทธสารสุนทร วัดประชาพิทักษ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ และพระมหาปัญญา กุสโล เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับนามฉายา 'ธมฺมกาโม' มีความหมายว่า 'ผู้ปรารถนาในพระธรรม'
หลังอุปสมบท ท่านได้อยู่ปฏิบัติรับใช้พระอุปัชฌาย์ระยะเวลาหนึ่ง ต่อมา ได้กราบลาขอเดินทางไปยัง จ.สกลนคร เพื่อศึกษาพระปริยัติธรรม จนสามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี-โท และเอก ตามลำดับ จากสำนักเรียนวัดคามวาสี อ. สว่างดินแดน จ. สกลนคร ถวายตัวเป็นศิษย์หลวงปู่มั่นต่อมา ท่านได้ไปขอฝากตัวเป็นอันเตวาสิก (ภิกษุผู้ขออยู่ร่วมสำนัก) ของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต เพื่อศึกษาด้านวิปัสสนากัมมัฏฐาน นั่งสมาธิ เจริญจิตตภาวนา หลวงปู่อ่ำ ได้มีโอกาสเข้าไปศึกษาปฏิบัติธรรมกับท่านพระอาจารย์มั่น ภูริทตตเถร ที่วัดป่าหนองผือ ถึง 3 ครั้งด้วยกัน ชึ่งแต่ละครั้งต้องเข้าไปในหน้าแล้ง เพราะยุคนั้นบ้านหนองผือมีไข้มาลาเลียชุกชุมมาก โดยครั้งแรกหลวงปู่เป็นสามเณร ได้ติดตามท่านพระอาจารย์คำ สุมังคโล ครั้งที่ 2 ยังเป็นสามเณรอยู่ ได้ไปกับครูบาเขื่อง การเข้าไปกราบนมัสการท่านพระอาจารย์มั่นทั้ง 2 ครั้งนั้นท่านได้สั่งให้ไปพักอยู่วัดบ้านนาใน กับหลวงพ่อสม ครั้งที่ 3 หลวงปู่อ่ำได้เข้าไปวัดป่าบ้านหนองผือองค์เดียว เพราะได้รับคำแนะนำจากพระอาจารย์บุญเพ็ง เขมาภิรโต (วัดถ้ำกลองเพล จ.หนองบัวลำภู) (ในขณะนั้นหลวงปู่บุญเพ็ง เขมาภิรโต ยังเป็นสามเณรอยุ่และเป็นเพื่อนกับหลวงปู่อ่ำ ) สามเณรบุญเพ็ง ท่านบอกหลวงปู่อ่ำว่า 'ถ้าอยากอยู่หนองผือด้วยกัน ให้มาองค์เดียว อย่ามาเป็นหมู่ ตอนผมมาก็เดินทางมาพร้อมพระอาจารย์สอ แต่เวลาเข้ามาวัดป่าบ้านหนองผือ เข้ามาทีละรูป'
ครั้งหลวงปู่อ่ำเข้ามาวัดป่าบ้านหนองผือครั้งที่ 3 นี้ ท่านได้บวชเป็นพระภิกษุ ไม่ค่อยกลัวเพราะเคยเข้ามาก่อนแล้ว หลวงปู่อ่ำมาถูกจังหวะ พบท่านพระอาจารย์มั่น กำลังกวาดตาดอยู่ ท่านใจดีมากท่านพูดกับหลวงปู่ว่า 'ถ้าจะอยู่ด้วยกัน ให้ไปขอนิสัยเด้อ' หลวงปู่น้อมรับคำของท่านพระอาจารย์มั่น ด้วยความซาบซึ้งและเคารพเป็นอย่างสูงในเมตตาจิตของครูบาอาจารย์ ในตอนเย็นวันนั้นเองหลวงปู่อ่ำท่าจึงได้เข้าไปกราบขอนิสัยจากท่านพระอาจารย์ มั่นที่กุฏิ
หลังจากท่านได้ขอนิสัยจากท่านพระอาจารย์มั่นแล้ว หลวงปู่ได้อยู๋พักที่วัดป่าบ้านหนองผือ มีหน้าที่ถวายงานรับใช้ท่าน โดยการสรงน้ำหลวงปู่มั่น ในเวลาตอนเย็น หลวงปู่ได้เล่าว่า 'อาตมาสรงน้ำท่านทุกวัน ตอนนั้นบวชเป็นพระยังไม่ได้ถึงพรรษา ตอนเป็นเณร อาตมาเคยรับใช้ครูบาอาจารย์มาก่อน เคยได้ไปอยู่กับท่านพระอาจารย์พรหม จิรปุญโญ (ปัจจุบันท่านมรณภาพแล้ว ณ วัดประสิทธิธรรม บ้านดงเย็น อ. บ้านดุง จ. อุดรธานี) ท่านสอนอาตมาว่า 'ใครอยากเป็นเจ้าเป็นนายร่ำรวยต่อไปให้รับใช้ครูบาอาจารย์เด้อ' ตอนที่สรงน้ำท่าน มีอาจารย์วัน อาจารย์ทองคำ เป็นต้น คือเป็นอุบายของท่านที่จะได้ฝึกหัดให้พระเล็กๆ พรรษาน้อย ได้เรียนรู้ข้อวัตรปฏิบัติและมีโอกาสใกล้ชิดท่าน นอกจากการสรงน้ำถวายท่านแล้ว อาตมามีหน้าที่ต้มยาร้อนให้ให้พระเณรในวัดฉัน มีสมอ ใบอีเลิศ (ใบช้าพลู) ใบผักหนอก (ใบบัวบก) ใบกานพลู กระเทียม อาจารย์บุญเพ็ง เป็นผู้คุมทางน้ำร้อน ต้มน้ำร้อนถวายท่านพระอาจารย์มั่น เพราะอยู่กับท่านนานถึง 4 ปี หลวงปู่อ่ำท่านเล่าให้ฟังว่า 'เวลาท่านพระอาจารย์มั่นดุนั้น น่ากลัวอยู่น่ะ' ท่านดุหลวงพ่อสมที่ไปกราบเรียนถามน่ะ เหตุที่ท่านดุนั้นเป็นแบบนี้ วัดบ้านนาในแต่ก่อนยังเป็นวัดมหานิกายและเป็นวัดร้าง พระธรรมยุตไปพักอยู่ ทีนี้ต้นหมากมี้ (ต้นขนุน) มันไม่เป็นลูก แต่เราไปอยู่ไปอาศัยเวลาเช้าเทกระโถนปัสสาวะมันชุ่ม ลูกโตดก แล้วญาครูญาณพระมหานิกาย มาเอาลูกหมากมี้ไป หลวงพ่อสมท่านเสียดาย เลยดุว่า 'คนหนี่งเฝ้ารักษา ก็ไม่ได้กิน' พอท่านพระอาจารย์มั่นทราบท่านสอนว่า 'ไม่ให้ดุเขา ให้เขาเอาไปซ่ะ' ท่านดุหลวงพ่อสม ไม่ให้ว่าเขา ภิกษุโจทย์ภิกษุ เรื่องปาราชิก ต้องอาบัติสังฆาทิเสส' ท่านดุหลวงพ่อสมจนหลวงพ่อสมกลัวตัวสั่น และลัวเป็นอาบัติ จึงไปกราบเรียนขอขมาและกราบเรียนถามท่านดู ท่านบอกว่า 'ท่านกำราบหลวงพ่อสมเฉยๆ' อีกเรื่องหนึ่ง ตอนนั้นอาตมายังเป็นเณรอยู่ ได้ไปพักที่วัดบ้านาใน หลวงพ่อนิน กับหลวงพ่อสม เถียงกันเรื่องเหาะ 'มันไปได้ทั้งกายทั้งจิตหรือ?' 'คงไปได้แต่จิต แต่กายจะไปได้หรือ?' หลวงพ่อสมไปกราบเรียนถามท่านพระอาจารย์มั่นว่า 'การเหาะอิทธิฤทธิ์ไปได้ทั้งกายทั้งจิตไหมขอรับ' ท่านตอบว่า 'ไปได้' ท่านวิสัชนาต่อว่า 'พระพุทธเจ้าขึ้นสู่ดาวดึงส์ ท่านให้คนเห็นทั้งเมืองสาวัตถี ทั้งวันเขาไม่กราบหรอก พระพุทธองค์ท่านทำให้เห็น เขาจึงกราบ ไปเทศน์โปรดพุทธมารดา' ท่านพระอาจารย์มั่นอบรมพระภิกษุสามเณร เป็นประจำ ทุกเย็นเวลาสองทุ่มเป็นต้นไป พระเณรขึ้นไปรับฟังธรรมจากท่านพระอาจารย์มั่นบนกุฏิท่าน หากมีจำนวนมากก็นั่งอยู่ข้างล่าง ประมาณ ปี พ.ศ. ๒๔๙๒ เดือนสามเพ็ญขึ้นไป ท่านได้ไม้อบรมจนท่านมรณภาพ ปกติท่านเทศน์เฉพาะพระ สอนแต่พระ 15 วันอบรมครั้ง วันสำคัญเช่น วันมาฆบูชา ทั้งพระทั้งเณรมารวมกันเต็มศาลา เย็น ๆ ปูเสื่อฟังเทศน์ ท่านเทศน์นานสี่ชั่วโมง แต่เทปสมัยนั้นยังไม่มี วิทยาศาสตร์ยังไม่เกิดในบ้านหนองผือ ท่านไม่อบรมญาติโยม ชาวบ้านหนองผือไม่ค่อยมา เขาไปวัดบ้านมหานิกาย ท่านไม่ให้มาใกล้หรอกพวกญาติโยม ส่วนพวกจำศีลไม่ได้เข้ามาพักที่วัด ท่านให้ไปบ้านไปปฏิบัติที่บ้านไม่ต้องเข้ามาจำศีลที่วัดป่าบ้านหนองผือ หลวงปู่อ่ำท่านได้เข้าไปพักที่วัดป่าบ้านหนองผือประมาณ 3 เดือนกว่า คือตั้งแต่เดือน12 จนถึงเดือนสามเพ็ญ พ.ศ. ๒๔๙๒ หลวงปู่จำเป็นต้องออกไปจากวัดป่าบ้านหนองผือ เพราะมีจดหมายมาตามให้ไปคัดเลือกทหารที่บ้านเดิมอุบลราชธานี โดยมากหากพระองค์ใดต้องไปเกณฑ์ทหารแล้ว ท่านพระอาจารย์มั่นท่านต้องให้ไปทำหน้าที่เพื่อชาติบ้านเมืองก่อนตรงนี้เสมอ พร้อมกับได้ออกเดินธุดงควัตรไปตามสถานที่ต่างๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
หลังจากนั้นหลวงปู่ได้มีโอกาสศึกษาธรรมกับหลวงปู่พรหม จิรปุญโญ ที่วัดประสิทธิธรรม บ้านดงเย็น ตำบลดงเย็น อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี รวม 4 ปี และหลวงปู่อ่ำได้ไปศึกษาธรรมและศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานกับองค์หลวงปู่ขาว อนาลโย แห่งวัดถ้ำกลองเพล อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู 6 ปี และได้ไปกราบหลวงปู่ฝั้น อาจาโร วัดป่าอุดมสมพร จ. สกลนคร, หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ วัดป่านิโครธาราม จ. อุดรธานี
ราคาปัจจุบัน
1000
จำนวนผู้เข้าชม
1539 ครั้ง
สถานะ
มาใหม่
โดย
ชื่อร้าน
sorasak99wat สรศักดิ์ พระเครื่อง
URL
เบอร์โทรศัพท์
0846850240
ID LINE
0846850240
บัญชีธนาคารยืนยันตัวตน
1. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา / 070-1-13702-4




กำลังโหลดข้อมูล

หน้าแรกลงพระฟรี